มิอาจแทนที่ - นิยาย มิอาจแทนที่ : Dek-D.com - Writer
×

    มิอาจแทนที่

    เรื่องราวของคู่รักคู่หนึ่งที่ต้องผ่านกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ความจริงใจของทั้งคู่ แต่เหมือนฟ้าจะไม่อยากให้พวกเขาสมหวังจึงลงทัณฑ์ให้เธอและเขาต้องพลัดพรากจากกันไปชั่วชีวิต

    ผู้เข้าชมรวม

    89

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    89

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  2 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  25 พ.ค. 65 / 23:31 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เช้าวันเสาร์ที่แสนอบอุ่น​ แสงแดดอ่อนๆที่ส่องผ่านมายังหน้าต่างบานเลื่อน​ ทำให้รับรู้ได้ว่าอากาศข้างนอกนั้น​ สดชื้นและสดใสขนาดไหน​ ลมเย็นๆที่พัดใบไม้ให้พลิ้วไหว
    "นี่! เซโร่​ สายแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปรับน้องไม่ทันหรอก"
    เสียงหญิงสาว​อายุวัยกลางคน​ เสียงแม่ของผม​ ดังขึ้นมาจากชั้นล่างของบ้าน
    "ครับ​ ครับ​ ลงไปเดี๋ยวนี้เลย"
    ผม​ ตอบรับกลับไปทันที​ ก่อนจะวิ่งลงไปชั้นล่างด้วยอาการร้อนล้น​ กลัวจะไม่ทันการณ์
    "แม่! นี่กี่โมงแล้ว? "
    " แล้วน้องจะลงรถกี่โมงครับ?" 
    "ผมดูดีหรือยัง?" 
    "เราไปกันเลยไหม?" 
    "น้องจะจำผมได้หรือป่าว?"
    "น้องจะชอบผมหรือป่าวครับ?" 
    "แม่! "
    เมื่อผมวิ่งลงมาถึงชั้นล่างในชุดเสื้อเชิ้ต​สีขาวสะอาดตา​ ปลดกระดุมเม็ดบนสุด​เผยให้เห็นรูปคอ กับกางเกงยีนตัวเก่งสีดำสนิทที่ถูกรีดจนเรียบ​ พร้อมกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆที่ทำให้รู้สึกอ่อนโยน​ เคลิบเคลิ้ม​เมื่ออยู่ใกล้ๆ​ ในความไม่มั่นใจของตัวเอง​ ทำให้ผมยิงคำถามรั่วๆใส่หญิงสาวผู้เป็นแม่จนไม่ทันตั้งตัว​ เหตุเพราะหญิงสาวที่ผมจะไปรับนั้น​ เธอคือรักแรกของผมในวัยเด็ก
    "ใจเย็นๆสิ​ เซโร่​ ทีละคำถาม​ แม่ตอบไม่ทันนะแบบนี้นะ"
    เสียงหญิงสาวผู้เป็นแม่ดุเบาๆ​ พร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ​ ที่แสดงถึงความเอ็นดู
    "............."
    ผมที่ยืนฟังอย่างเงียบๆ​ และทำหน้าตาอย่างคาดหวังว่าผู้เป็นแม่จะตอบคำถามอย่างไง ให้ผมมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
    "ดูดีแล้วจ๊ะ​ น้องต้องจำเราได้อยู่แล้ว​ น้องลงรถ​ 11:00 น.​ จ๊ะ​ เราไปขึ้นรถกันเถอะ​พ่อคงเช็ครถเสร็จ​แล้ว​ละ"
    เสียงหญิงสาวผู้เป็นแม่​ ค่อยๆพูดอธิบายอย่างช้าๆในขณะที่เธอกำลังเตรียมตัว​เดินออกไปที่ลานจอดรถหน้าบ้าน
    "ครับ"
    ผมขานรับ​เบาๆ ก่อนเดินตามหลังแม่ไปอย่างเงียบๆ​ อย่างตื่นเต้นเบาๆ
    "เฮ้ย! สุดหล่อ​ หน้าแดงเป็นลูกมะเขือเทศเลยนะ​"
    เสียงชายหนุ่มวัยกลางคน​ เสียงพ่อของผมตะโกนดังมาจากฝั่งคนขับรถ​ เมื่อเห็นผมเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกจากบ้านมา
    "อย่าแซวกันสิครับ​ ผมเขินนะ"
    ผมตอบกลับไปแบบเขินอายนิดๆ​ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูหลังขึ้นรถ

    สถานีรถไฟ

    "ถึงแล้ว​ละ​"
    เสียงของพ่อ​ ทำให้ผมตื่นเต้นมากเมื่อรู้ว่าใกล้จะได้เจอสาวผู้เป็นรักแรกของผม
    "อ้าว! ถึงแล้วก็ลงสิ​ สุดหล่อ​ มัวแต่ยิ้มอยู่ได้"
    เสียงพ่อทำผมสะดุ้งอีกรอบ​ ผมรีบลงจากรถ​ แล้วเดินตามหลัง​คู่รักวัยกลางคนที่เดินเกาะแขนกันอย่างกะนุ้งกะนิ้งละเมียดละไม​ ดูน่ารักน่าเอ็ดดูและอีกทั้งยังน่าอิจฉา
    "คุณลุง! คุณป้า!"
    เสียงใสแจ๋วดังขึ้น​ ทำให้ทั้งผมและพ่อกับแม่สะดุ้งโหยง​ทันที​ ก่อนหันดูว่าใช่เสียงของหญิงสาวที่เรากำลัง​จะมารับหรือป่าว
    "สวัสดี​ค่ะ​คุณลุง​ คุณป้า"
    ผมหันไปตามเสียง​ ก็พบกับหญิงสาววัยแรกแย้ม​ ใบหน้ากลม​ดังรูปไข่ มีดวงตากลมโตนัยตาสีน้ำตาลหวานฉ่ำ​ คิ้วโก้งเป็นคันศร​ จมูกโด่งรับกับรูปหน้า​ รูปปากเรียวเล็กอมชมพู​ฉ่ำวาวกับแก้มที่ขาวนวลนั้นเผยให้เห็นเส้นเลือดฝอยที่อมชมพู​ ผิวที่ขาวเนียนช่างเข้ากับผมที่ดกดำยาวสะลวย รูปร่างกำลังดีไม่ดูบอบบางจนเกินไป​ ในชุดเสื้อยืดแขนยาวธรรมดาๆสีฟ้าอ่อน​ กับกระโปรงสีฟ้าครามยาวพอดีเข่า​ รองเท้าผ้าใบสีพื้น​ เป็นชุดธรรมดาๆที่คนใส่ทั่วไป​ แต่กับหญิงสาวที่เห็นตรงหน้านั้นมันกับทำให้ชุดที่สวมใส่นั้นดูดีอย่างชัดเจน​ ผมยืนอึ้งไปกับภาพตรงหน้าชั่วครู่ขณะ
    "สวัสดีจ๊ะ" 
    เสียงชายหนุ่ม​วัยกลางคนขานรับเสียงของหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
    "สวัสดี​จ๊ะ​ หนูอามอร นั่งรถมาไกล​เหนื่อยหรือป่าวจ๊ะ? อามอร"
    เสียงหญิงสาว​วัยกลางคนดังขึ้นก่อนถามหญิงสาวตรงหน้าอย่างอ่อนโยน
    "นิดหน่อย​ค่ะ​ คุณป้า"
    เสียงหญิงสาววัยแรกแย้มตอบรับอย่างอารมณ์ดี​ ก่อนหันมามองชายหนุ่มที่ยืนนิ่งเป็นก้อนหิน​ ใบหน้าที่แดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด​ หญิงสาวยิ่งเห็นเช่นนั้นยิ่งทำหน้าตางุงงง​ เอียงคอสงสัย​ ก่อนเอ๋ยปากทักทายชายหนุ่มตรงหน้า
    "พี่ค่ะ! "
    เสียงหญิงสาวเรียกชายหนุ่ม
    "ครับ!" 
    ผมสะดุ้งโหยง​ ทำให้หลุดจากวังวน​ ขานรับด้วยความตกใจ
    "นี่! พี่​ ทำไมไม่ทักทายกันเลยละ?" 
    เสียงหญิงสาวอ้อดอ้อน​ น้ำเสียงคล้ายจะน้อยใจเอ๋ยถามชายหนุ่มอย่างสงสัย
    "อื้ม! สบายดีหรือป่าว? นั่งรถมาเหนื่อยไหม? หิวหรืิอยัง?" 
    ผมขานรับ​ ก่อนถามอย่างเขินอายแบบเกเกกังกัง
    "พี่ก็​ถามแปลกๆ​ ต้องสบายดีสิ​ ไม่งั้นคงไม่มายืนตรงหน้าแบบนี้หรอก​ เหนื่อยสิ​ หิวแล้วค่ะ​ ไปหาอะไรกินกันเถอะ" 
    เสียงหญิงสาวตอบรับอย่างใสแจ๋ว​ พร้อมรอยยิ้มเริงร่า​ ที่ใครเห็นเป็นต้องเอ็นดู
    "ฮ่าฮ่า​ สาวน้อยของเราหิวแล้ว​ เราควรจะพาไปหาอะไรกินกันดีไหมจ๊ะแม่? "
    เสียงชายหนุ่มวัยกลางคนดังขึ้นถามหญิงสาววัยกลางคนที่ยืนยิ้มด้วยความเอ็นดู
    "ดีจ๊ะพ่อ​ เซโร่​ ลูกว่าไง? น้องหิวแล้ว" 
    เสียงแม่ตอบรับพ่อ​ ก่อนหันมายิ้มใสๆอย่างเอ็นดูปนสงสัยให้ผม
    " ครับ" 
    ผมตอบอย่างเขินอาย​ ยิ่งทำให้ทั้งสามคนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนที่เราทั้งสี่คนจะเดินไปหาร้านอาหารใกล้ๆสถานีรถไฟ​ ก่อนเดินทางกลับ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น